น้ำมันรำข้าว จากภูมิปัญญาของชาวเอเชีย กำลังโด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ผู้ใส่ใจดูแลสุขภาพในแถบยุโรปและอเมริกา เนื่องจากงานวิจัยจำนวนมากให้ความสนใจกับคุณค่าทางโภชนาการและคุณประโยชน์ต่อสุขภาพของน้ำมันรำข้าว

น้ำมันรำข้าวคืออะไร

น้ำมันรำข้าว เป็นน้ำมันพืชชนิดที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในการปรุงอาหารเอเชีย อาทิ อาหารญี่ปุ่นและอาหารจีน น้ำมันรำข้าวสกัดมาจากเยื่อสีน้ำตาลที่ห่อหุ้มเมล็ดข้าวที่ได้จากกระบวนการสีข้าว เรียกว่า “รำข้าว” ซึ่งเป็นส่วนประกอบเพียง 7-8% ของข้าว แต่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ สำหรับน้ำมันรำข้าวของประเทศไทยนั้น ขึ้นชื่อในเรื่องคัดสรรมาเฉพาะรำข้าวหอมมะลิแท้ นอกจากนี้ผู้ใส่ใจในสุขภาพยุคใหม่ยังให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อน้ำมันรำข้าวที่ไม่ใช้พืชที่ตัดต่อพันธุกรรม (Non GMO) ในการผลิตอีกด้วย

นานาประโยชน์ของน้ำมันรำข้าว

อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ น้ำมันรำข้าวอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด สารสำคัญที่สุดคือ แกมม่า-ออริซานอล ซึ่งจะพบได้เฉพาะในน้ำมันจากข้าวเท่านั้น โดยน้ำมันรำข้าวโดยทั่วไปจะให้สารแกมม่า-ออริซานอล 2,000 – 4,000 ppm ปัจจุบันยังมีน้ำมันรำข้าวที่สกัดพิเศษ เพื่อให้ได้สารแกมม่า-ออริซานอลสูง ถึง 8,000 ppm อีกด้วย นอกจากนี้ในน้ำมันรำข้าวยังพบ วิตามินอี ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องการชะลอความชรา จึงเห็นได้ว่ามีการใช้น้ำมันรำข้าวในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจำนวนไม่น้อย

มีงานวิจัยระบุว่าทั้งสารแกมม่า-ออริซานอล และ วิตามินอี จากรำข้าว สามารถยับยั้งกระบวนการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล (Cholesterol Oxidation) ของร่างกาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าน้ำมันรำข้าวมีส่วนช่วยลดอาการไขมันในเลือดสูงได้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยระบุว่าแกมม่า-ออริซานอลน่าจะมีฤทธิ์ในการลดไขมันในเส้นเลือดสูงกว่าวิตามินอี เนื่องจากในรำข้าวมีแกมม่า-ออริซานอลสูงกว่าวิตามินอี ถึง 10 เท่าเลยทีเดียว

สร้างสมดุลของไขมัน

ฤทธิ์ในการลดคอเลสเตอรอลของรำข้าวกำลังเป็นที่สนใจของผู้รักสุขภาพ มีงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า รำข้าวและน้ำมันรำข้าวอาจช่วยลดแอลดีแอล-คอเลสเตอรอล (LDL-C) ซึ่งเป็นไขมันชนิดไม่ดี และยังอาจช่วยเพิ่มเอชดีแอล-คอเลสเตอรอล (HDL-C) ไขมันชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยในคนระบุว่าน้ำมันรำข้าวที่มีแกมม่า-ออริซานอลสูง อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดไขมันในเส้นเลือดได้มากยิ่งขึ้น

จุดที่ก่อให้เกิดควันสูง (High Smoke Point)

จุดที่ก่อให้เกิดควัน (Smoke Point) คือ อุณหภูมิที่น้ำมันประกอบอาหารเริ่มกลายเป็นควัน และเริ่มเสื่อมสลายคุณค่าทางโภชนาการและกลิ่นรส ซึ่งน้ำมันแต่ละชนิดมีจุดที่ก่อให้เกิดควันในอุณหภูมิที่ต่างกัน ดังนั้น จุดที่ก่อให้เกิดควันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกซื้อน้ำมันประกอบอาหาร โดยเฉพาะในการปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนสูง เช่น การทอด จึงควรเลือกใช้แต่น้ำมันที่มีจุดที่ก่อให้เกิดควันสูง (High Smoke Point) ซึ่งไม่เพียงช่วยรักษากลิ่นรสของอาหาร แต่ยังช่วยลดการเกิดควันน้ำมันในการประกอบอาหาร อันอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้

น้ำมันรำข้าวเป็นที่นิยมในการใช้ประกอบอาหารทุกชนิด โดยเฉพาะอาหารประเภททอด ซึ่งใช้ความร้อนสูง นอกจากนี้น้ำมันรำข้าวยิ่งมีกลิ่นรสอ่อนจาง ไม่มีกลิ่นหืน และดีต่อสุขภาพ ทำให้มีผู้นิยมใช้ในการทำอาหารประเภทผัด อีกทั้งสามารถใช้ประกอบอาหารฝรั่งได้เป็นอย่างดี โดยชาวตะวันตกเริ่มนำน้ำมันรำข้าวมาใช้ในการทำน้ำสลัด ผัดสปาเก็ตตี้หลากหลายเมนู ตลอดจนใช้ทำเบเกอรี คนไทยจึงน่านำมาทดลองใช้ ก็จะช่วยลดการนำเข้าน้ำมันมะกอกได้อีกทางหนึ่ง