พอฝนหยุดขาดเม็ดไปแป็บๆ ลมหนาวก็พัดมาแล้ว พี่น้องประชาราษฎร์ของเราหลายคนยังคงต้องลำบากกับน้ำท่วมอยู่เลย หากอากาศเย็นมาเบียดเบียนเข้าไปอีก คุณๆ ก็อาจเกิดโรคติดต่อต่างๆตามมาได้ ดังนั้น PGP จึงอยากมาแบ่งปัน ความรู้ในการป้องกัน ดูแลสุขภาพของคุณเองและครอบครัวในหน้าหนาวนี้ โรคที่มากับฤดูหนาวมีอะไรบ้าง โรคในฤดูหนาวที่พบบ่อยส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อในกลุ่มไวรัส ได้แก่ โรคหัด หัดเยอรมัน คางทูม ไข้สุกใส ส่วนโรคที่พบรองลงมา ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม รู้อย่างนี้แล้วจะได้พาคุณไปรู้จักแต่ละโรค อาการที่ตรวจพบเพื่อคุณจะได้รีบไปรักษาได้ทันท่วงทีต่อไป
🔴 โรคหัด
โรคนี้มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส ติดต่อได้ง่ายทางลมหายใจ อาการเริ่มต้นจะมีไข้สูงมากๆ ไอมาก ตาแดงหรือน้ำมูกไหล และมีผื่นแดงตามตัว โดยขณะที่ผื่นขึ้นนั้นยังมีไข้สูงอยู่ และอาจเกิดโรคแทรกได้ เช่น ปอดบวม อุจจาระร่วง สมองอักเสบ และหูชั้นกลางอักเสบ โดยเฉพาะ กลุ่มเด็กที่ขาดสารอาหารหรือเด็กน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์พบมาก ช่วงฤดูหนาวนี่เอง แต่จะเพิ่มสูงมากในเดือนมกราคมจนถึงมีนาคมของทุกปี โรคนี้มักพบในเด็ก วัยต่ำกว่า 15 ปีโดยเฉพาะเด็กอายุ 5-9 ขวบ และที่พบบ่อยคือกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนเพียงเข็มเดียวการดูแลรักษาไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา กินยาลดไข้ รักษาตามอาการป้องกัน การฉีดวัคซีนในเด็กวัย 9-12 เดือน และกระตุ้นเมื่ออายุ 6 ขวบ
🔴 โรคสุกใส (อีสุกอีใส)
เกิดจากเชื้อไวรัสเช่นกัน และจะพบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเรา อาการไข้ ปานกลาง มีตุ่มใส และมีตุ่มหลายระยะ ในเวลาเดียวขึ้นที่หน้า ลำตัว แขน ขา และโดยเฉพาะ เด็กถ้าเป็นในช่องปาก อาจทำให้ดูดนม หรือกินอาหารได้น้อย พบมากช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง มีนาคมทุกปี พบมากในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยเฉพาะเด็กอายุ 5-9 ขวบการดูแลรักษา ให้รักษาตามอาการ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากอาการป่วยในเวลาไม่นานและมักจะไม่มีโรคแทรกซ้อน ยกเว้นบางรายที่อาจ มีการติดเชื้อโรคซ้ำบริเวณรอยแผลตุ่มใส ทำให้เกิดแผลเป็นได้การป้องกัน โรคนี้ติดต่อได้ค่อนข้างง่าย จากการสัมผัส แต่ถ้าคนที่เคยป่วยแล้ว จะมีภูมิต้านทานตลอดชีวิต ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคนี้แล้ว แต่ยังมีราคาแพงอยู่ครับ
🔴 โรคคางทูม
เกิดจากเชื้อไวรัส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบผู้ป่วยมากที่สุด อาการที่ใช้ปานกลาง พอเป็นเยอะเข้าจะมีอาการติดเชื้อ ทำให้ต่อมน้ำเหลืองหน้ากกหูบวมโตขึ้น และมักโตทั้ง 2 ข้าง พบมาก ที่สุดในฤดูหนาว ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม ถึงมีนาคม และพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน พบมาก ในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีโดยเฉพาะอายุ 5-9 ขวบพบมากที่สุดการดูแลรักษา ให้รักษาตามอาการ และอาการมักจะไม่รุนแรง แต่ถ้าพบโรคนี้ในเด็กโต อาจจะเกิดภาวะข้างเคียงได้คือ ลูกอัณฑะอักเสบ การป้องกันโรคนี้ไม่รุนแรง อาจจะไม่จำเป็นต้องแยกผู้ป่วย แต่ต้องแยกผ้าเช็ดตัว ผ้าห่มและผ้าเช็ดหน้า
🔴 โรคปอดบวม
โรคนี้มักเริ่มจากเชื้อไวรัสก่อนและแบคทีเรียตามมาซ้ำเดิมภายหลังหากคนใช้ไม่ได้รับการรักษาที่ดีพอ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบผู้ป่วยมากที่สุดอาการไข้ ไอ เสมหะมาก แน่นหน้าอกเหมือนหายใจไม่ออก หอบ หายใจเร็ว มักพบตามหลังไข้หวัดเรื้อรังหรือรุนแรง หรือโรคหลอดลมอักเสบ โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นโรคหอบหืด พบมากที่สุดในฤดูฝนและพบได้บ่อยในฤดูหนาว เช่นกัน กลุ่มอายุที่พบมากคืออายุต่ำกว่า 10 ขวบ โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ และผู้สูงอายุ การดูแลรักษา ลูกหลานและญาติที่ป่วยเป็นไข้หวัดหรือหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โดยไปพบแพทย์ในเบื้องต้น และถ้าอาการยังไม่ทุเลา ก็ควรไปพบแพทย์ซ้ำ เพื่อติดตามการรักษาต่อไปการดูแลอื่นๆ ได้แก่ การทำร่างกายให้อบอุ่นการดื่มน้ำอุ่น การอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่แออัดเพื่อลดความเสี่ยงต่อการหายใจรับเชื้อเข้าไป สำหรับบุคคลทั่วไป เวลาไอ จาม ควรมี ผ้าเช็ดปาก ปิดปาก จมูก ด้วยทุกครั้งและหมั่นล้างมือ
🔴 ไข้หวัดใหญ่
เกิดจากเชื้อไวรัส อาการไข้สูง ปวดศีรษะมา ปวดเมื่อยตามตัวมากอาจมีคลื่นใส้ อาเจียน พบมากที่สุดในฤดูฝนและพบได้บ่อยในฤดูหนาวเช่นกัน กลุ่มอายุที่พบ มักเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ วัยทำงาน และเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบ การดูแลรักษาควรพบแพทย์แต่เนิ่นๆ การป้องกัน ควรทำร่างกายให้แข็งแรง และอบอุ่นอยู่เสมออย่างไรก็ตาม ทั้งปอดบวม และไข้หวัดใหญ่ จะต้องมีการเฝ้าระวัง และดูแลเป็นพิเศษเนื่องจากเป็น โรคที่มีอาการสำคัญของโรคที่คล้ายและใกล้เคียงกับ โรคไข้หวัดนก