แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) เป็นชื่อของสารตัวหนึ่ง ที่ถูกสร้างขึ้นในร่างกายของเรานี่เอง โดยสร้างขึ้นมากจากกรดอะมิโนสองตัว คือ ไลซีน (Lysine) และเมไทโอนีน (Methionine) ซึ่ง แอล-คาร์นิทีน ในร่างกายของคนเราถูกสร้างขึ้นไปใช้ในหน้าที่ต่างๆ หลายอย่าง ที่สามารถพูดในภาพรวมได้ว่า แอล-คาร์นิทีน ช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนกรดไขมันไปเป็นพลังงานนั่นเอง ซึ่งพลังงานที่ได้มานี้ ส่วนใหญ่ก็ถูกใช้สำหรับการทำงานของกล้ามเนื้อทั่วร่างกายเรานั่นเอง

แอล-คาร์นิทีน ถูกสร้างขึ้นภายในตับและไต และนำไปเก็บไว้ที่กล้ามเนื้อลาย ตัวอย่างเช่น กล้ามเนื้อตามแขน ขา ของเรานั่นเอง นอกจากนี้ยังถูกลำเลียงไปที่กล้ามเนื้อหัวใจ สมอง และสเปิร์ม ซึ่งในส่วนของสเปิร์มนั้น จะทำให้เคลื่อนที่ได้อย่างเหมาะสม เพราะ แอล-คาร์นิทีน จะไปเร่งให้ไมโทคอนเดรียเปลี่ยนไขมันมาเป็นพลังงาน

สำหรับในอาหารจะพบสาร แอล-คาร์นิทีน ได้จากอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ เนื้อแดง ผลไม้ ได้แก่ พวกผลอะโวคาโด (Avocado) ธัญพืช คนที่รับประทานอาหารมังสวิรัติอาจจะเกิดการขาด แอล-คาร์นิทีน ได้ในบางครั้ง เนื่องจาก แอล-คาร์นิทีน พบได้ในเนื้อสัตว์ หรือในผู้ป่วยบางรายที่มีปัญหาที่เกี่ยวกับการดูดซึมของระบบย่อยอาหาร รวมไปถึงในกรณีที่มีผู้ป่วยขาด แอล-คาร์นิทีน (ซึ่งพบน้อยมาก) ที่อาจจะเกิดจากความผิดปกติของ ตับ ไต หรือทานอาหารที่มีกรดอะมิโนไลซีนและเมไทโอนีนน้อย ก็จะมีอาการอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ เจ็บหน้าอก เจ็บกล้ามเนื้อ แขนขาอ่อนแรง ความดันเลือดต่ำ และอาจมีอาการมึนงงสับสนร่วมด้วย เป็นต้น

สำหรับ แอล-คาร์นิทีน นั้นมีข้อควรรู้ดังนี้ คือ

🔴 1. แอล-คาร์นิทีน ทำให้แก่ช้าลง ในเหตุผลแรกนี้ ก็ชวนให้เราหลงใหลใคร่อยากกิน แอล-คาร์นิทีน กันแล้ว ที่ แอล-คาร์นิทีน ทำให้แก่ช้าลงก็เพราะเหตุผลที่ว่าเซลล์ในร่างกายทุกๆ เซลล์ไม่ว่าจะเป็นเซลล์สมอง เซลล์จากระบบภูมิคุ้มกัน เซลล์จากหัวใจหรือเซลล์จากที่อื่นๆ ของร่างกายทั้งหมด จะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อได้รับพลังงานเพียงพอ และเหมาะสมกับความต้องการของเซลล์แต่ละชนิด และ แอล-คาร์นิทีน นี่เองทำให้เซลล์มีอายุยืนยานขึ้น

🔴 2. แอล-คาร์นิทีน ทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) อยู่ในระดับต่ำ และช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่มีประโยชน์ (HDL-คอเลสเตอรอล) ในเลือด

🔴 3. แอล-คาร์นิทีน ช่วยป้องกันโรคหัวใจ โดยมีผลทำให้สุขภาพโดยรวมของหัวใจดีขึ้น และช่วยป้องกันการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวด้วย (1 ใน 3 ของสาเหตุที่ทำให้คนเป็นโรคหัวใจ)

🔴 4. แอล-คาร์นิทีน ช่วยให้น้ำหนักลด โดยเฉพาะการใช้ร่วมกับวิธีการที่เราลดอาหารจำพวกแป้งลงในอาหารแต่ละมื้อ

🔴 5. แอล-คาร์นิทีน ช่วยเพิ่มระดับพลังงานของร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ หรือเกิดความเสียหายใดๆ กับร่างกาย เหมือนกับที่พบในสารสกัดจากพืชบางชนิด

🔴 6. แอล-คาร์นิทีน ช่วยให้ความสามารถในการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น มีความทนทานมากขึ้น และป้องกันเนื้อเยื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย อันเนื่องมากจากปริมาณออกซิเจนในเซลล์ไม่เพียงพอ

🔴 7. แอล-คาร์นิทีน ช่วยให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น

🔴 8. แอล-คาร์นิทีน ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ประสาท อันเนื่องมาจากความเครียด และอาจมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ แต่ได้ผลเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอายุน้อย ทำให้อาการของโรคไม่เป็นไปมากกว่านี้

🔴 9. แอล-คาร์นิทีน มีผลต่อสุขภาพจิตในทางบวก และลดภาวะความเครียด

🔴 10. แอล-คาร์นิทีน ช่วยในการทำงานของตับ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของคนเรา แต่การใช้ แอล-คาร์นิทีน มีข้อควรระวัง คือ อาจมีผลข้างเคียงต่างๆ เกิดขึ้นกับร่างกายได้ และอาจจะเข้าทำปฏิกิริยากับยาอื่นๆ ที่กินร่วมกัน ดังนั้นในการใช้แต่ละครั้งควรอยู่ในความควบคุมดูแลของแพทย์จะปลอดภัยกว่า และข้อควรจำให้ขึ้นใจก็คือ สารทุกอย่างมีทั้งประโยชน์และโทษในตัวเอง ขึ้นกับปริมาณและช่วงจังหวะเวลาของการใช้ ถึงแม้ว่า แอล-คาร์นิทีน จะไม่ปรากฏผลข้างเคียงใดๆ ที่เด่นชัดมากนัก แต่ก็แสดงให้เห็นว่าถ้ากินเข้าไปมากขนาด 5 กรัมต่อวัน หรือมากกว่า อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้ สำหรับคนที่มีอาการแก้ต่ออาหารโปรตีน หรือข้าวสาลี ไม่ควรกินผลิตภัณฑ์ที่เสริม แอล-คาร์นิทีน เป็นอันขาด รวมถึงคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับและไต เด็กที่มีอายุยังไม่ถึง 2 ขวบและสตรีมีครรภ์ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้ ถ้าจำเป็นก็ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์