หลังจากที่ได้ข้อมูลอันเป็นข้อเท็จจริงในมุมที่เราไม่เคยรับทราบมาก่อน แต่ก็ได้มาทราบในภายหลังจากหนังสือ ทำไมคุณถึงป่วย 1 โดยนายแพทย์เปี่ยมโชค ชลิตาพงศ์ คงต้องกล่าวได้ว่า เป็นข้อมูลที่มีคุณค่าและเปิดโลกทัศน์แก่ผู้อ่านได้เป็นอย่างดี คราวนี้ก็มาพบกับผู้จัดการวารสารว่าจะคัดลอกนำข้อมูลทางวิชาการอันเป็นประโยชน์ข้อใด นำมาเสนอกันอีกครั้งหนึ่ง
จากหนังสือ Alternative Medicine. The Definitive Guide ปี 1997 หน้า 773 บทที่กล่าวถึง OSTEOPOROSIS แปลเป็นไทยคือ “กระดูกผุ” ได้ว่า จากข้อมูลสถิติการประมาณการ พบว่า คนอเมริกัน 20 ล้านคน เป็นโรคกระดูกผุ ทุกๆปีจะมีคนที่อายุเกิน 45 ปีมีกระดูกหักเนื่องจากกระดูกผุ 1.3 ล้านคนประเทศที่มีประชาชนกินนมมากที่สุดในโลกเป็นประเทศที่มีคนกระดูกหักเนื่องจากกระดูกผุมากที่สุดในโลกด้วย เป็นไงครับ งงไหม ความได้เปรียบทางด้านความคิดอย่างหนึ่งก็คือ การได้อ่านได้ฟังความคิดหลายๆด้าน จากแหล่งข้อมูลหลายๆ แหล่ะเพื่อที่เราจะสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาพินิจพิจารณา แล้วหาข้อสรุปที่เหมาะสมที่เราจะนำมาปฎิบัติต่อไป ลองอ่านไปเรื่อยๆ ครับ ในหนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงสาเหตุของกระดูกผุไว้ดังนี้ครับ
🔴 กาแฟ พบว่าคนที่กินกาแฟมากกว่า 3 ถ้วยต่อวัน มีโอกาสกระดูกผุมากกว่าคนทั่วไป 82% ร่างกายต้องสูญเสียแคลเซียมและในการขับคาแฟอีนทิ้งทางปัสสาวะเหล้า ก็เหมือนกับกาแฟ ทำให้ร่างกายต้องสูญเสียแคลเซียมและแมกนีเซียมในการขับแอลกอฮอล์ทิ้งทางปัสสาวะ
🔴 เนื้อ นม ไข่ พบว่า คนที่กินโปรตีนมากเกินไป เมื่อร่างกายใช้โปรตีนแล้วของเสียที่เกิดขึ้นคือ แอมโมเนีย แอมโมเนียยับยั้งการดูดซึมกลับของแคลเซียมที่ใดทำให้ร่างกาย ต้องสูญเสียแคลเซียมไปกับปัสสาวะโดยเปล่าประโยชน์ พูดง่ายๆ เนื้อ นม ไข่ ไม่ได้ ช่วยแก้ปัญหากระดูกผุ ในทางตรงกันข้ามกลับเพิ่มปัญหากระดูกผุเสียด้วยซ้ำไป
🔴 เค็ม พบว่า คนที่กินเกลือโซเดียมมากกว่า 3,900 มิลลิกรัมต่อวัน มีโอกาสที่จะสูญเสียแคลเซียมทางปัสสาวะมากกว่า คนที่กินเกลือโซเดียม 1,600 มิลลิกรัมต่อวันถึง 30%
🔴 หวาน (ขนม ผลไม้ น้ำผลไม้ น้ำหวาน น้ำอัดลม) ความหวานทำให้เลือดเป็นกรด ร่างกายใช้แคลเซียมจากกระดูกเป็นตัวปรับสภาพกรด ดังนั้นถ้ากินหวานเป็นประจำ ก็จะทำให้กระดูกเสียแคลเซียมอยู่เรื่อยๆ ปัจจุบันถือว่าเป็นสาเหตุอันดับ 2 ที่เดียว สำหรับทุกกลุ่มอายุ
🔴 น้ำอัดลม นอกจากน้ำอัดลมจะหวานจัดแล้ว ทำให้กระดูกเสีย แคลเซียมแล้วยังมีฟอสฟอรัสสูง ทำให้และดูกต้องเสียแคลเซียม เพิ่มเพื่อปรับสมดุลของฟอสฟอรัสสูง ทำให้กระดูกต้องเสียแคลเซียมเพิ่มเพื่อปรับสมดุลของฟอสฟอรัสอีกต่างหาก พูดง่ายๆ เสียแคลเซียม 2 เด้งเลยทีเดียว
🔴 ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร ยานี้จะไปลดการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นคนที่กินยาลดกรดเป็นประจำ ก็จะเพิ่มโอกาสกระดูกผุ
🔴 ไม่ออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะทำให้กล้ามเนื้อต่างๆ เกิดการดึงรั้งต่อกระดูกต่างๆ ที่มันเกาะอยู่ แรงดึงเหล่านี้ส่งผลให้กระดูกแข็งแรงเพราะกระดูกจะรักษาแคลเซียมไว้ในกระดูกให้มากที่สุดเพื่อสามารถทนต่อการใช้งานและข้อนี้มีความสำคัญสูงมาก จัดเป็นสาเหตุอันดับ 1 ทีเดียว
🔴 ไม่โดนแดด ปกติผิวหนังของคนเราจะสร้างไวตามิน D ขึ้นเองเมื่อถูกแสงแดด ในการทำงานต่างๆของแคลเซียม โดยเฉพาะการนำแคลเซียมไปสร้างกระดูก ไวตามิน D จึงมีความสำคัญสูงมาก แต่คนในสังคมปัจจุบัน ทั้งหญิงและชายโดยหลบแดดกันเป็นแถว กลัวเป็นฝ้า แต่ไม่กลัวกระดูกผุ เลยผุไปตามๆกัน
เป็นไงครับเห็นหรือยัง กระดูกผุหรือไม่ผุ ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเรื่องแก่ตรงไหนเลย OK เรื่องฮอร์โมนมีผลต่อกระดูกอยู่แล้วแต่ไม่ได้เป็นปัจจัยใหญ่มากอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจกันชะหน่อย ลองหลับตาแล้วนึกภาพซิครับ ทำงานจอดใกล้ลิฟท์ที่สุด เข้ากาแฟ 1 ถ้วย (บางคนอาจเป็นน้ำผลไม้) ขนมปังไส้สังขยา 1 ช้อน บ่ายกาแฟอีก 1 ถ้วย บ่ายแก่ๆ น้ำอัดลม 1 กระป๋อง เที่ยงกินข้าวเสร็จตบท้ายด้วยขนมหวานอีก 1 ถ้วย เย็นทานข้าวเย็นเสร็จแล้วตามด้วยผลไม้ 1 จานใหญ่ ไม่เคยออกกำลังกายเลย (โถ..ทำงานอย่างเดียวก็เหนื่อยจะตายชักอยู่แล้ว ยังจะให้ไปออกกำลังกายอีก) ก็อ้างไปได้เรื่อยๆแหละครับ แค่นี้ก็เห็นภาพแล้วว่าทำไมคนปัจจุบันที่มีปัญหา (แปลว่ามีสตางค์ไง) ไปตรวจมวลกระดูก ถึงเป็นโรคกระดูกผุ จริงไหมครับ ที่เหลือคิดเอาเองครับ