กระแสสุขภาพและความงามที่กำลังมาแรงทำให้ปัจจุบันคนหันมาสนใจอาหารเสริมกันมากขึ้น เช่น ถ้าอยากผิวสวยต้องกินสารสกัดจากปลาทะเลน้ำลึก ไม่อยากเป็นหวัดต้องกินวิตามินซี แต่คงดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น หากเรารู้หลักการทำงานที่แท้จริงของอาหารเสริม จะได้เลือกทานอย่างถูกวิธี ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย
อาหารเสริม (supplements) คือ สิ่งที่มาช่วยเติมสารอาหารให้แก่ร่างกายเท่านั้น ไม่ใช่อาหารที่สามารถกินแทนมื้อหลักได้ สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ได้ดังนี้คือ
🔴 1. มัลติวิตามิน (Multivitamins)
เป็นอาหารเสริมที่รวมวิตามินและแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน มีส่วนประกอบหลัก คือ แคลเซียมและธาตุเหล็ก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงร่างกายให้สดชื่นกระฉับกระเฉง มีพลังงานในการทำงกิจกรรมต่างๆ ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือยู่ในช่วงควบคุมอาหาร และในทางสูตินรีแพทย์นิยมให้วิตามินชนิดนี้แก่ผู้ป่วยสตรีตั้งครรภ์หรือยู่ในช่วงควบคุมอาหาร เพื่อเพิ่มเติมความสมบูรณ์ของครรภ์มารดาอีกด้วย มัลติวิตามินที่เป็นที่นิยมกินเป็นอาหารเสริม คือ วิตามินบีคอมเพล็กซ์
🔴 2. โพรไบโอติก (Probiotics)
ร่างกายควรได้รับอาหารเสริมจำพวกจุลินทรีย์และแบคทีเรีย เพื่อประโยชน์ในการย่อยอาหารอีกทั้งยังช่วยให้เกิดความสมดุลของระบบการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายได้อีกด้วย อาหารเสริมประเภทนี้ ได้แก่ ไฟเบอร์ โยเกิร์ต นมเปรี้ยว
🔴 3. สารสกัดจากพืช (Herbal)
อาหารเสริมที่ได้จากสารสกัดจากพืช ช่วยให้เราบริเวณได้ง่ายขึ้น ร่างกายยังสามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ในทันที เช่นขมิ้นชันอัดเม็ด ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด สารสกัดจากธัญพืช ช่วยบำรุงสมองและความจำ เป็นต้น โดยส่วนต่างๆ ของพืชที่นำมาสกัดคือ อาหารเสริมประเภทนี้ไม่สะสมในร่างกาย และไม่ก่อนให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ
🔴 4. กรดอะมิโน (Amino acid)
อาหารเสริมจำพวกรดอะมิโน คือหน่วยย่อยโปรตีนที่ทำหน้าที่บำรุงเส้นผม ผิวพรรณ ข้อต่อ กล้ามเนื้อ และเซลล์เนื้อเยื่อ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย อาหารเสริมจำพวกนี้ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต อาหารเสริมยอดนิยมประเภทนี้ คือน้ำมันสกัดจากปลาทะเลน้ำลึก และน้ำมันสกัดจากเมล็ดพืช
อาหารเสริมพื้นฐานที่ควรเลือกบริโภค
🔴 1. วิตามินบีคอมเพล็กซ์ (Vitamin B-complex)
คือ อาหารเสริมที่รวมตั้งแต่ ปี 1 ถึงบี 12 ที่ประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสำคัญต่อระบบประสาทและสมอง ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดพลังงานแก่ร่างกาย ผู้ใหญ่ควรบริโภคประมาณ 50-100 มิลลิกรัมต่อวันในทุกเช้า
🔴 2. วิตามินซี (Vitamin C)
เป็นวิตามินที่ตับของมนุษย์ไม่สามารถผลิตออกมาได้เอง จึงจำเป็นที่จะต้องเติมเต็มเข้าสู่ร่างกาย และเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำจึงไม่สะสมอยู่ในร่างกายสามารถแบ่งกินระหว่างวันได้ทุกๆ ชั่วโมงปริมาณบริโภคที่แนะนำคือ 60-90 มิลลิกรัมต่อวันช่วยป้องกันการขาดสารอาหารและปริมาณ 3,000 ถึง 6,000 มิลลิกรัมต่อวันช่วยบำรุงร่างกาย วิตามินซีช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น ช่วยลดปัญหาในช่องปากและฟัน เช่น เลือดออกตามไรฟัน บำรุงเหงือก
🔴 3. ซิงค์ (ZINC)
เป็นแร่ธาตุที่ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์และฮอร์โมนเพศ และช่วยชดเชยพลังงานที่สูญเสียไปกับเหงื่อ มีสารประกอบเมทัลโปรตีน ซึ่งเป็นโปรตีนสังเคราะห์ที่ช่วยในกระบวนการเจริญเติบโตของเซลล์ และเนื้อเยื่อ ปริมาณบริโภคที่แนะนำต่อวัน คือ 5.5-9.5 มิลลิกรัมในผู้ชายและ 4-7 มิลลิกรัมในผู้หญิง ควรกินพร้อมอาหาร หากกินเพียงอย่างเดียวขณะท้องว่าอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้
🔴 4. โอเมก้า-3 (Omega-3)
เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่สกัดจากปลาทะเลและพืชจำพวกถั่ว เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะถูกเปลี่ยนเป็นดีเอชเอ (DHA) โดยอวัยวะตับ แต่จากผลการวิจัยขององค์การความปลอดภัยของอาหารแห่งยุโรป (EFSA) ไม่พบหลักฐานชัดเจนว่าช่วยบำรุงสมองในเด็กแต่จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กระดูกและไขข้อต่างๆ ช่วยลดสภาวะจิตใจหดหู่ลดคอเลสเตอรอลในเลือด และลดอัตราเสี่ยงเป็นโรคหัวใจปริมาณบริโภคที่แนะนำคือ ไม่ควรเกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
🔴 5. เวย์โปรตีน (Whey protein)
อาหารเสริมที่สกัดได้จากหางนมและผลิตภัณฑ์จากสัตว์เช่น ซีส เนื้อแดง จึงเหมาะกับผู้กินชีวจิต และผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะมีโปรตีนสูงช่วยเผาผลาญไขมัน เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ หรือยังช่วยกรองระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด โดยการควบคุมการดูดซึมอินซูลินเข้าสู่กระแสเลือด ปริมาณที่ควรบริโภคต่อวัน คือ ไม่เกิน 1 หรือ 2 กรัม
เหตุผลที่ควรกินอาหารเสริม
1. มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตแย่ เช่น สูบบุหรี่จัด หรือติดแอลกอฮอล์ ไลฟ์สไตล์ เช่นนี้ เทียบได้กับการสะสมพิษที่ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว และยังมีพฤติกรรมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เช่น กินอาหารไม่เป็นเวลา การกินอาหารแบบเร่งรีบจึงเคี้ยวไม่ละเอียด กินอาหารด้วย อาการเครียด พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารไม่ได้เต็มที่
2. ภาวะร่างกายสูญเสียพลังงาน เช่น หญิงตั้งครรภ์ หญิงสูงอายุ หญิงวัยหมดประจำเดือน หรือร่างกายปฏิเสธไม่รับอาหารเพื่อใช้ในการสะสมความแข็งแรง เติมความสมบูรณ์ให้กับร่างกาย
3. อยู่ท่ามกลางสภาวะเป็นพิษ เช่น ร่างกายสะสมมลพิษไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ส่งผลให้ภูมิต้านทานอ่อนกำลังและใช้เวลานานกว่าร่างกายจะขับออกหมด ทำให้ร่างกายอ่อนแอกว่าปกติ
4. กระบวนการแปรรูปอาหาร เช่นการกินอาหารในภัตตาคาร หรือในร้านอาหารตามสั่ง เป็นประจำ ซึ่งเราไม่สามารถ รู้ได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมใดเพิ่มเติมมาในจานอาหารทำให้เราไม่ได้รับสารอาหารครบถ้วน
อาหารเสริมที่เหมาะกับตัวเอง คือ อาหารเสริมที่ช่วยบำรุงสุขภาพของเราให้ดีขึ้นช่วยฟื้นฟูปัญหาสุขภาพได้อย่างตรงจุด เช่น อาการนอนไม่หลับ อาการอ่อนเพลีย หรือ แม้แต่การช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายให้แข็งแรง และที่สำคัญคือ ต้องปลอดภัยต่อสุขภาพกระดูก ตับและระบบประสาทของเราด้วย สิ่งสำคัญในการบริโภค คือ ควรกินตามปริมาณบริโภคที่แนะนำต่อวัน หากเกินปริมาณที่กำหนดไว้อาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายได้