🔴 1. กล้ามเนื้อที่ต้องทำงานหนักและถูกเกร็งค้างอยู่นาน ๆ โดยจะพบบ่อย เช่น การเกร็งในการสะพายกระเป๋าทุกครั้งเพื่อไม่ให้กระเป๋าหลุดลงจากบ่า เลยต้องมีการเกร็งกล้ามเนื้อบ่าอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่ได้ใช้แรงกล้ามเนื้อมากนัก แต่เป็นการเกร็งค้าง จึงมีการบีบกดของหลอดเลือดที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ๆ ทำให้การนำออกซิเจนมาช่วยเผาผลาญสารอาหารทำได้ไม่เต็มที่ เมื่อร่างกายไม่ได้รับออกซิเจนไปใช้ในกระบวนการนี้ จึงทำให้เกิดการคั่งของกรดแล็กติก ถ้าไม่ได้ระบายออกด้วยการไหลเวียนของเลือด จะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยล้าได้ กล้ามเนื้อที่มีอาการปวดล้าได้ง่ายได้แก่ กล้ามเนื้อบริเวณบ่า คอด้านหลัง และหลังส่วนล่าง
🔴 2. มีภาวะหดสั้นของกล้ามเนื้อ ภาวะเช่นนี้มักจะพบได้ที่กล้ามบริเวณหน้าอก กล้ามเนื้อคอด้านหน้า กล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้องอสะโพก การที่เราใช้มือทำงานโดยยื่นออกไปทางด้านหน้า โดยทั่วไปจะทำให้กล้ามเนื้อหน้าอกอยู่ในภาวะที่หดสั้นตลอดเวลา จนความยาวของกล้ามเนื้อลดลง เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้งานกล้ามเนื้อนั้น ในลักษณะที่ยืดยาวออกจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ การนั่งนานจะทำให้เกิดการหดสั้นของกล้ามเนื้อหน้าท้อง และกล้ามเนื้องอสะโพกที่อยู่ทางด้านหน้าของลำตัวได้
🔴 3. การออกแรงอย่างหนักของกล้ามเนื้อ จะทำให้มีการเกิดการคั่งของกรดแล็กติก ทำให้กล้ามเนื้อล้าและปวด อาการปวดจะกระตุ้นกล้ามเนื้อให้เกร็งโดยอัตโนมัติ แต่หากไม่ได้ผ่อนคลายอาการตึงตัวของกล้ามเนื้อ ก็มักจะทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังได้ อาการเช่นนี้มักจะพบได้ในกล้ามเนื้อทุกมัดที่ต้องออกแรงอย่างหนัก
วิธีป้องกันการเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อ
ควรอยู่ในท่าทางที่เหมาะสม เช่น ไม่ควรก้มคอหรือหลังมากเกินไป ไม่อยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนาน ๆ เช่น นั่งนานเกินกว่า 2 ชั่วโมง ควรจะปรับกิจกรรมที่ทำให้กล้ามเนื้อต้องเกร็งค้างตลอดเวลา เช่น ไม่ควรสะพายกระเป๋าที่หนักเกินไป ให้ลดน้ำหนักลงหรือสะพายสลับข้างกันบ้าง หรือใช้มือถือไว้บ้าง เพื่อเปลี่ยนกลุ่มการใช้งานของกล้ามเนื้อ
หลังจากปรับสภาพงานหรือเปลี่ยนวิธีการทำงานแล้ว การออกกำลังด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อที่ใช้งานจะช่วยลดการตึงตัว เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและความยืดหยุ่น โอกาสที่ความปวดเมื่อยล้าและบาดเจ็บจากการทำงานจะลดลง หรือสามารถรับประทานอาหารเสริมประเภท แคลเซียม แมกนีเซียม ซึ่งทั้งแคลเซียมและแมกนีเซียมนั้นจะช่วยการป้องกันการปวดกล้ามเนื้อได้ดี
อาการปวดเมื่อยและอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ มักพบได้บ่อยในกลุ่มคนที่ทำงานออฟฟิศและผู้ใช้แรงงาน แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีการแก้ไขอาการปวดเมื่อยและล้าของกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสม อาจทำให้กลายเป็นอาการปวดเรื้อรังของกล้ามเนื้อ (myofascial pain) หากเกิดอาการปวดเมื่อยล้า การยืดเหยียดกล้ามเนื้อก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่ช่วยป้องกันและรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อได้
แต่เราไม่ควรจะใช้วิธียืดกล้ามเนื้อแบบที่เค้าทำกัน คือ จะยืดกล้ามเนื้อแบบ ซ้ำ ๆ และเร็ว ๆ สลับกันไปมา ซึ่งการยืดแบบนี้จะกระตุ้นรีเฟล็กซ์การหดกลับของกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อจะหดตัวขณะยืดเสมือนเป็นการต้านแรงกัน ทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดได้ การยืดกล้ามเนื้อแบบนี้จะได้ผลและปลอดภัยในผู้ที่มีความชำนาญ (เช่น นักกีฬา) เท่านั้น
สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องของการปวดกล้ามเนื้อ อาหารเสริมประเภท แคลเซียม แมกนีเซียม เป็นสารอาหารที่จะช่วยลดและบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังได้สารอาหารประเภท วิตามินดี อีกด้วย