ไมเกรน เป็นอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงมักปวดบริเวณขมับข้างใดข้างหนึ่ง คนที่เป็นไมเกรนมักมีอาการเตือนล่วงหน้า เช่น เหนื่อย อ่อนเพลีย หาวบ่อย ตาพร่ามัว แสบตา เห็นภาพซ้อนหรือเห็นแสงจ้าเป็นจุดหรือเส้นซึกแซกในตา ซึ่งกระบวนการทั้งหมดอาจเป็นอยู่ประมาณ 10-30 นาที ก่อนจะปวดศีรษะ หรือมีอาการวิงเวียน คลื่นไส้และอาเจียนตามมา ไม่เกรนมักเป็นๆ หายๆ ผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า สาเหตุของการเกิดไมเกรนยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่สังเกตได้ว่าสามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ และเกิดจากระบบการทำงานของหลอดเลือดในสมองผิดปกติ

ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นอาการไมเกรนให้กำเริบหรือเป็นถี่ขึ้น คือความเครียด สภาวะฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ช่วงมีประจำเดือน การรับประทานยาคุมกำเนิด การรับประทานอาหาร เช่น ช๊อกโกแลต ซึ่งมีสารประกอบทางไนโตรเจนที่มีผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด ทำให้อาการปวดหัวทวีความรุนแรง หรือแม้แต่อาหารที่มีผงชูรส ไส้กรอก ของดอง และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น สถานที่ที่เสียงดัง มีแสงสะท้อนจ้า และสุดท้ายการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและสภาพอากาศ อย่างเช่น ช่วงหน้าร้อนของทางบ้านเรา ซึ่งมีแนวโน้มว่าปีนี้จะร้อนมาก ผู้ที่เป็นไมเกรนเป็นประจำอาจจะหลีกเลี่ยงสภาวะกระตุ้น การกำเริบของโรค หรือ ป้องกันตนเองจากไมเกรนด้วยวิธีดังนี้

🔴 หลีกเลี่ยงสถานที่ที่ร้อนและแออัด โดยเฉพาะงานนิทรรศการต่างๆ ที่ผู้คนหนาแน่น อากาศหายใจไม่เพียงพอ ทำให้วิงเวียนศีรษะได้ง่าย หรือหลังจากการเผชิญกับอากาศร้อนภายนอก และเดินเข้าภายในอาคารที่อากาศเย็นทันที อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวแปลบขึ้นมา ในกรณีที่ต้องขับรถในช่วงแดดส่องจัด ควรสวมแว่นตากันแดด ป้องกันแสงสะท้อนเข้าตาและหากรู้สึกว่าไม่เกรนกำลังคุกคาม รีบหาที่นั่งพักสายตาสักครู่ ให้ผ้าเย็นประคบหน้าผากหรือต้นคอ จะบรรเทาอาการได้

🔴 รับประทานอาหารครบทุกมื้อ โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้าซึ่งร่างกายต้องการมากที่สุด หลังจากท้องว่างเป็นระยะ เวลานานกว่า 7-8 ชั่วโมง หากปล่อยให้ท้องว่าง น้ำตาลในเลือดจะลดต่ำลง อาจทำให้อาการไมเกรนกำเริบได้

🔴 นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ใช้เวลาหยุดสุดสัปดาห์ในการพักผ่อนอย่างเต็มที่ หรือประยุกต์ท่าโยคะ ที่เรียกว่า ท่าศพ เพื่อการผ่อนคลายกล้ามเนื้ออย่างเต็มที่ เริ่มจาก การปิดไฟในห้องให้มืดและเงียบสนิท นอนหงายบนฟูกหรือพื้นราบ หงายมือวางข้างลำตัว หายใจเข้าและออกลึกๆ อย่างสม่ำเสมอ หากทำได้ 10 นาที ร่างกายจะรู้สึกปลอดโปรงมากขึ้น

🔴 ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมเป็นประจำ ช่วยให้อาการปวดไมเกรนดีขึ้น เพราะร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินช่วยบรรเทาความเครียดและปรับอารมณ์ให้เป็นปกติทั้งนี้หากมีอาการไมเกรนอยู่ก่อนก็ไม่ควรออกกำลังกายเพราะจะยิ่งทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น