เซราไมด์ เป็นกลุ่มสารสฟิงโกไลปิด (sphingolipid) ที่เป็นโครงสร้างหลักที่สำคัญ อยู่ในชั้นของหนังกำพร้าที่เรียกว่าสตราตัม คอร์เนียม (stratum corneum) ทำให้หนังกำพร้ามีคุณสมบัติในการเป็นเกราะป้องกันต่าง ๆ เช่น ป้องกันและปกปิดอวัยวะภายในไม่ให้ได้รับอันตราย ป้องกันเชื้อโรคไม่ให้เข้าสู่ร่างกายโดยง่าย ช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ และเซราไมด์ยังมีบทบาทที่สำคัญ ทำให้ผิวหนังสามารถทำหน้าที่อุ้มน้ำ และรักษาระดับการซึมผ่านของน้ำในผิวหนัง มีงานวิจัยรองรับว่า การลดลงของระดับเซราไมด์ เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดโรคผิวหนังต่าง ๆ เช่น โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (atopic dermatitis) โรคผื่นแพ้จากการสัมผัส (contact dermatitis) และโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)
เกี่ยวกับเรื่องผลที่มีต่อการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง (skin moisturizing effect) มีงานวิจัยที่ญี่ปุ่น รองรับว่าการรับประทานเซราไมด์ที่ได้มาจากพืช (plant ceramide) ทำให้ปริมาณน้ำในชั้นผิวหนังมีระดับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับประทานเซราไมด์ ดังนั้นการที่ผิวมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำที่ดี จะช่วยทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น หากระดับของเซราไมด์ลดลง จะทำให้ผิวหนังแห้ง เหี่ยวย่น จึงควรเสริมเซราไมด์ให้พอเพียงอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังพบว่า เซราไมด์มีคุณสมบัติเป็น ไวท์เทนเนอร์ (whitener) สามารถลดการสังเคราะห์สารเมลานินได้ด้วยกลไกการชะลอการกระตุ้น ERK (extracellular signal-regulated protein kinase)
เซราไมด์ จึงเหมาะในการช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้งรุนแรง ปกป้องและสร้างเกราะป้องกันความชุ่มชื้นของผิว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผิวแห้งกร้าน ผิวแพ้ง่าย ผิวเริ่มมีริ้วรอย